Translate

วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เลขฐานและตรรกศาสตร์

 1.6  การแปลงเลขฐานสอง เลขฐานแปดและเลขฐานสิบหก ให้เป็นเลขฐานสิบ
 หลักการเปลี่ยนเป็นเลขฐานสิบจากเลขฐานต่างๆสามารถแปลงเขฐานต่างๆเป็นเลขฐานสิบได้โดยการนำเลขแต่ละตำแหน่งของฐานนั้น ๆ ไปคูณด้วยน้ำหนัก (Weighting) หรือค่าประจำหลักของเลขฐานนั้น ๆ แล้วนำมาบวกกัน เราก็จะได้ค่าออกมาเป็นเลขฐานสิบนั่นเอง

ตัวอย่างที่       จงแปลงเลขฐานสอง 1101101 ให้เป็นเลขฐานสิบ
วิธีทำ     
             11011012       =    (1´26) + (1´25) + (0´24) + (1´23) + (1´22) + (0´21) + (1´20)
                      =    64   +   32   +   0   +   8   +   4   +   0   +   1
                      =    10910
               
               ตัวอย่างที่    2   จงแปลงเลขฐานแปด 2374 ให้เป็นเลขฐานสิบ
วิธีทำ     
             23748              =    (2´83) + (3´82) + (7´81) + (4´80)
                                      =    2´512  + 3´64  + 7´8  +  4´
                                      =    1024  +  192  +  56  +  4
                                      =    127610

               ตัวอย่างที่  3     จงแปลงเลขฐานสิบหก B2F8 ให้เป็นเลขฐานสิบ
วิธีทำ     
             B2F816            =    (B´163) + (2´162) + (F´161) + (8´160)
                                      =    11´4096 + 2´256 + 15´16 + 8´1
                                      =    45056  +  512 + 240 + 8 
                                      =    4581610
1.7    การแปลงเลขฐานสิบให้เป็น เลขฐานสอง เลขฐานแปดและเลขฐานสิบหก
การแปลงเลขฐานสิบให้เป็นเลขฐานใด ๆ ก็ตาม จะมีวิธีการคิดเช่นเดียวกัน โดยการแบ่งลักษณะการแปลงได้ กรณี คือ
1.             กรณีเลขฐานสิบที่ต้องการแปลงเป็นเลขจำนวนเต็ม
2.             กรณีเลขฐานสิบที่ต้องการแปลงเป็นเลขเศษส่วน(เลขทศนิยม)

ตัวอย่างที่ 1     จงแปลง 18.62510 ให้เป็นเลขฐานสอง
วิธีทำ      แยกคิด ครั้ง คือ 1810 และ 0.62510
                แปลง  1810  ให้เป็นฐานสอง
                                                                                                เศษ
                                18   ¸   2               =   9                        0              (LSD หรือ LSB)
                                9     ¸   2               =   4                        1                
                                4     ¸   2               =   2                        0                
                                2     ¸   2               =   1                        0                
                                1     ¸   2               =   0                        1              (MSD หรือ MSB)
                \  1810                 =    100102
                แปลง  0.62510  ให้เป็นฐานสอง
                                                                                                จำนวนเต็มที่เก็บ
                                0.625     ´   2       =   1.250                                1                              (MSD หรือ MSB)
                                0.250     ´   2       =   0.500                                0
                                0.5         ´   2        =   1.0                                     1
                                0.0         ´   2        =   0                                        0
                \  0.62510              =    0.1012
                \  18.62510            =    10010.1012

ตัวอย่างที่ 2   จงแปลง 359.2810 ให้เป็นเลขฐานแปด
วิธีทำ      แยกคิด ครั้ง คือ 35910 และ 0.2810
                แปลง  35910  ให้เป็นฐานแปด
                                                                                                เศษ
                                359 ¸   8               =   44                      7              (LSD)
                                44   ¸   8               =   5                        4                
                                5     ¸   8               =   0                        5              (MSD)
                \  35910                 =    5478
              
                    แปลง  0.2810  ให้เป็นฐานแปด
                                                                                                จำนวนเต็มที่เก็บ
                                0.28       ´   8        =   2.24                                  2                              (MSD)
                                0.24       ´   8        =   1.92                                  1
                                0.92       ´   8        =   7.36                                  7
                                0.36       ´   8        =   2.88                                  2
                                0.88       ´   8        =   7.04                                  7
                \  0.2810                =    0.217278
                \  359.2810            =    547.217278

ตัวอย่างที่ 3  จงแปลง 650.0510 ให้เป็นเลขฐานสิบหก
วิธีทำ      แยกคิด ครั้ง คือ 65010 และ 0.0510
                แปลง  65010  ให้เป็นฐานสิบหก
                                                                                                เศษ
                                650 ¸   16            =   40                      10           คือ           A             (LSD)
                                40   ¸   16             =   2                        8                
                                2     ¸   16             =   0                        2              (MSD)
                \  65010                 =    28A16
                แปลง  0.0510  ให้เป็นฐานสิบหก
                                                                                                จำนวนเต็มที่เก็บ
                                0.05       ´   16     =   0.80                                  0                              (MSD)
                                0.80       ´   16     =   1.28                                  1
                                0.28       ´   16     =   3.48                                  3
                                0.48       ´   16     =   7.68                                  7
                                0.68       ´   16     =   10.88                                10           คือ           A
                \  0.0510                =    0.0137A16
                \  650.0510            =    28A.0137A16
1.8    การแปลงระหว่างเลขฐานแปดกับเลขฐานสอง
                จากหัวข้อที่เราได้ศึกษามาแล้ว ถ้าเราต้องการที่จะแปลงเลขระหว่างเลขฐานแปดกับเลขฐานสองนั้น เราจะกระทำได้โดยแปลงเลขฐานที่ต้องการแปลงให้เป็นเลขฐานสิบก่อนจากนั้นจึงค่อยแปลงจากเลขฐานสิบไปเป็นเลขฐานที่ต้องการ ซึ่งจะเห็นว่ามีวิธีการที่ยุ่งยากเสียเวลามาก ถ้าเราสังเกตจากตารางดังต่อไปนี้ ซึ่งเทียบค่าระหว่างเลขฐานสองกับเลขฐานแปดจะเห็นว่า ความสัมพันธ์ของเลขฐานแปดที่เป็นเลขพื้นฐาน ตัว สามารถแทนด้วยเลขฐานสองขนาด 3 bit พอดี
เลขฐานสิบ
เลขฐานสอง
เลขฐานแปด
0
000
0
1
001
1
2
010
2
3
011
3
4
100
4
5
101
5
6
110
6
7
111
7

                ดังนั้นในการแปลงระหว่างเลขฐานสองกับเลขฐานแปดเราสามารถกระทำได้โดยการจับกลุ่มของเลขฐานสอง 3 bit ต่อเลขฐานแปด หลัก โดยเทียบค่ากัน ตัวต่อตัว
ตัวอย่างที่ 1     จงแปลงเลขฐานแปดต่อไปนี้เป็นเลขฐานสอง
ก)                  7528

วิธีทำ
                 ก)            7528        =             111  101  0102

ตัวอย่างที่ 2     จงแปลงเลขฐานสองต่อไปนี้เป็นเลขฐานแปด
ก)                  1011110012

วิธีทำ
                )            101 111 0012                        =             5 7 18
           
1.9  การแปลงระหว่างเลขฐานสิบหกกับเลขฐานสอง
                ในลักษณะเดียวกัน ถ้าเราต้องการที่จะแปลงเลขระหว่างเลขฐานสิบหกกับเลขฐานสองนั้น เราจะกระทำได้โดยแปลงเลขฐานที่ต้องการแปลงให้เป็นเลขฐานสิบก่อนจากนั้นจึงค่อยแปลงจากเลขฐานสิบไปเป็นเลขฐานที่ต้องการ ซึ่งจะเห็นว่ามีวิธีการที่ยุ่งยากเสียเวลามากเช่นเดียวกัน ถ้าเราสังเกตจากตารางดังต่อไปนี้ ซึ่งเทียบค่าระหว่างเลขฐานสองกับเลขฐานสิบหกก็จะเห็นเช่นกันว่า ความสัมพันธ์ของเลขฐานสิบหกที่เป็นเลขพื้นฐาน ตัว สามารถแทนด้วยเลขฐานสองขนาด 4 bitพอดี
เลขฐานสิบ
เลขฐานสอง
เลขฐานสิบหก
0
0000
0
1
0001
1
2
0010
2
3
0011
3
4
0100
4
5
0101
5
6
0110
6
7
0111
7
8
1000
8
9
1001
9
10
1010
A
11
1011
B
12
1100
C
13
1101
D
14
1110
E
15
1111
F
                ดังนั้นในการแปลงระหว่างเลขฐานสองกับเลขฐานสิบหกเราสามารถกระทำได้โดยการจับกลุ่มของเลขฐานสอง 4 bit ต่อเลขฐานสิบหก หลัก โดยเทียบค่ากัน ตัวต่อตัวเช่นเดียวกับฐานแปด
ตัวอย่างที่ 1    จงแปลงเลขฐานสิบหกต่อไปนี้เป็นเลขฐานสอง
ก)                  CF3716

วิธีทำ
)            CF3716                   =             1100  1111  0011  01112
         
ตัวอย่างที่ 2   จงแปลงเลขฐานสองต่อไปนี้เป็นเลขฐานสิบหก
ก)                  100111101.1100112
วิธีทำ
           ก)            0001  0011  1101 . 1100 11002            =             1 3 D . C C16
 
วิดิโอ เรียนรู้เพิ่มเติม

ขอบคุณข้อมูลจาก

4 ความคิดเห็น:

  1. วิดีโอเสริมความรู้เยอะดีค่ะ เนื้อหาก็ดีมากด้วย^^

    ตอบลบ
  2. เนื้อหาเยอะมาก มีวีดีโอเสริมด้วย

    ตอบลบ
  3. ระบบเลข เป็นสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ที่แสดงถึงจำนวนต่าง ๆ ระบบเลขแต่ละระบบมีจำนวนตัวเลขที่ใช้เหมือนกับชื่อของระบบตัวเลขนั้น และมีฐานของจำนวนเลขตามชื่อของมัน เช่น เลขฐานสอง เลขฐานแปด เลขฐานสิบ เลขฐานสิบหก

    ระบบเลขฐานสอง เป็น เลขฐานที่ประกอบด้วยตัวเลข 2 ตัว คือ 0 และ 1 ซึ่งเลข 0 กับ 1 เป็นเลขที่นิยมใช้กับคอมพิวเตอร์ในการประมวลผลการทำงาน การเก็บข้อมูล หรือโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับสถานะทางไฟฟ้า

    ระบบเลขฐานแปด เป็นเลขฐานที่ประกอบด้วยเลข 8 ตัวคือ 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, รวมแปดตัว

    ระบบเลขฐานสิบ เป็น เลขฐานที่ประกอบด้วยเลข 10 ตัว คือ 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, ซึ่งเลขฐาน 10 เป็นเลขฐานที่มนุษย์ทั่วไปสามารถเข้าใจได้ง่ายมากที่สุด เพราะว่าเป็นตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน

    ระบบเลขฐานสิบหก เป็น เลขฐานที่ประกอบด้วยเลข 10 ตัวและตัวอักษร 6 ตัว คือตัวเลข 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, และตัวอักษรคือ A แทน 10, B แทน 11, C แทน 12, D แทน 13, E แทน 14, F แทน 15 ซึ่งรวมกันแล้วได้ 16 ตัว

    ตรรกศาสตร์ (อังกฤษ: logic - มีรากศัพท์จากภาษากรีกคือ λόγος, logos) เป็นการศึกษาเชิงปรัชญาว่าด้วยการให้เหตุผล โดยมักจะเป็นส่วนสำคัญของวิชาปรัชญา คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ รวมถึงภาษาศาสตร์ ตรรกศาสตร์เป็นการตรวจสอบข้อโต้แย้งที่สมเหตุสมผล (valid argument) หรือการให้เหตุผลแบบผิดๆ (fallacies) ตรรกศาสตร์ เป็นการศึกษาที่มีมานานโดยมนุษยชาติที่เจริญแล้ว เช่น กรีก จีน หรืออินเดีย และถูกยกขึ้นเป็นสาขาวิชาหนึ่งโดย อริสโตเติล

    สรุปโดย เด็กหญิงศิรินุช ลีนะธรรม ชั้นม.3/7 เลขที่31

    ตอบลบ